การตัดสินใจซื้อรถสักคัน มีเรื่องที่ทำให้เราต้องคิดเยอะทีเดียว ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในการดาวน์รถผ่อนงวดรถ เรื่องของการเลือกทำประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่ และเรื่องของการดูแลรถอย่างถูกต้อง เรียกว่ามีสิ่งที่ต้องคิดต้องเตรียมพร้อมเยอะจริง ๆ
หลายคนกัดฟันสู้ทนผ่อนรถจนมาถึงงวดสุดท้ายแล้ว อีกนิดเดียวก็จะได้ครอบครองรถเป็นของตนเองอย่างสมบูรณ์ ซึ่งการจะเป็นเจ้าของรถโดยสมบูรณ์ก็จะต้องมีการไปติดต่อขอดำเนินการโอนรถ และขอเล่มทะเบียนกับทางไฟแนนซ์ แต่ในกระบวนการขั้นตอนเหล่านี้ซับซ้อนหรือไม่ และจะต้องเตรียมตัวหรือเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เราอาสามาแนะนำให้
เตรียมความพร้อมเรื่องเอกสารสำหรับโอนรถ
เมื่อคุณชำระสินเชื่อการผ่อนรถยนต์งวดสุดท้ายเรียบร้อย ต่อไปก็จะต้องไปดำเนินการเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของรถยนต์ ซึ่งการจะโอนรถนั้นก็ต้องมีขั้นตอนทางเอกสาร ดังนั้น คุณจะต้องเตรียมเอกสารสำหรับการยื่นขอโอนรถกับทางไฟแนนซ์ดังนี้
- เอกสารใบขอโอนรถ เป็นแบบคำขอโอนรถยนต์ซึ่งคุณสามารถขอได้จากกรมการขนส่งทางบก แต่โดยปกติแล้วทางไฟแนนซ์จะมีเอกสารนี้อยู่แล้ว เราสามารถเข้าไปขอดำเนินการได้เลย เมื่อได้เอกสารมาแล้วก็ให้เซ็นชื่อในช่องรับโอนให้ถูกต้อง
- สำเนาบัตรประชาชน ในเอกสารสำเนาต้องมีการเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องด้วย สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ลายเซ็นต้องให้เหมือนและตรงกับที่เซ็นไว้ในเอกสารสัญญาเช่าซื้อ
- สำเนาทะเบียนบ้าน เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องด้วย
- ใบมอบอำนาจ (กรณีให้ผู้อื่นมาโอนแทน) หากคุณไม่สามารถมาดำเนินการเองได้ก็ต้องมีการ ทำหนังสือมอบอำนาจ และมีการเซ็นชื่อในช่องผู้มอบอำนาจไว้ให้เรียบร้อย
- ค่าใช้จ่ายในการโอนรถ ตรงนี้บริษัทไฟแนนซ์แต่ละแห่งอาจจะมีการเก็บไม่เท่ากัน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วก็จะอยู่ที่ 1,000 – 3,000 บาท
การรับเล่มทะเบียนรถ
หลังจากดำเนินการด้านเอกสารการโอนรถเรียบร้อยแล้ว ก็ให้รอรับเล่มทะเบียนรถ ซึ่งการรับเล่มทะเบียนรถปกติแล้วก็จะทำได้ 2 วิธีคือ
- รับทางไปรษณีย์ จะมีการจัดส่งเล่มทะเบียนรถมาทางไปรษณีย์
- รับด้วยตัวเอง ให้เข้าไปรับที่บริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งโดยปกติแล้วหลังจากดำเนินการส่งเอกสารโอนกรรมสิทธิ์รถแล้ว การดำเนินการด้านเอกสารต่าง ๆ มาจนถึงการส่งเล่มทะเบียนก็จะอยู่ที่ประมาณ 4 วันถึง 1 สัปดาห์ กรณีดำเนินการข้ามเขตต่างจังหวัดก็อาจจะประมาณ 15 วัน
เป็นเจ้าของรถเต็มตัวแล้วอย่าลืมเรื่องประกันภัยรถยนต์
เมื่อได้ครอบครองรถแบบเต็มตัวแล้ว อีกสิ่งที่ต้องมาพิจารณาด้วยก็คือ เรื่องของประกันภัยรถยนต์ซึ่งก่อนหน้านี้อาจจะทำไว้แบบหนึ่ง ถ้าคุณยังคงรับมือกับเบี้ยประกันไหวก็แนะนำให้ต่อประกันแบบเดิมไว้ แต่ถ้าช่วงหลังใช้รถน้อยลง ก็อาจจะปรับมาเป็นประกันที่เบี้ยถูกลงหน่อยก็ได้ แต่อย่างไรก็แนะนำให้ทำและต่อไว้อย่าให้ขาด เพราะประกันรถมีไว้ยังไงก็อุ่นใจกว่าเสมอ
นี่คือขั้นตอนการเตรียมตัวในส่วนต่าง ๆ สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์รถหลังจากผ่อนงวดสุดท้าย ซึ่งถ้าเตรียมพร้อมตามนี้ก็จะทำให้การดำเนินการง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องไปติดต่อหลายครั้ง เมื่อเป็นเจ้าของรถโดยสมบูรณ์แล้วอย่าลืมเรื่องการดูแลรักษารถด้วย หมั่นคอยตรวจเช็กรถให้พร้อมเดินทางอยู่เสมอ และไม่ว่าจะเดินทางไปไหน อย่าลืมที่จะตรวจสอบประกันภัยรถยนต์ด้วยนะว่าครบกำหนดต่อหรือยัง ความคุ้มครองจะได้ครอบคลุมต่อเนื่องนั่นเอง